Friday, February 24, 2006

สังคมเสียงข้างน้อย

และแล้ว มันก็ยุบ

ฉลาดจริง ๆ
พิสูจน์ได้ว่า คนระดับ พันตำรวจโท ด๊อกเตอร์
ถ้ามันจะเลว นี่เลวได้ฉลาดจริง ๆ

ฤาเขาจะกลับมาด้วยเสียงข้างมาก
ฤาเราต้องยอมรับเขา
ฤาเราต้องเล่นนอกระบบจริง ๆ

ประชาธิปไตยนี่นา
เล่นตามกติกาต้องยอมรับเสียงข้างมากนะ

สว.เสียงข้างน้อย
ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างน้อย
กรรมการสรรหาเสียงข้างน้อย
คตง.เสียงข้างน้อย
ม๊อบ เสียงข้างน้อย
ฯลฯ เสียงข้างน้อย

ทำไมผมกลับมองเห็นความมีปัญญาในเสียงข้างน้อยเหล่านี้นะ

น้อยครับ ผมขอเป็นเสียงอยู่ข้าง ๆ คุณนะครับ

4 comments:

a portrait of the engineer as a young man said...

เขียนดีครับ

จบสวย

นิยมยินดี

ป.ล.
กลับมาก็มีคนไล่เหมือนเดิม

Unknown said...

กติกา ก็คือ กติกา .... บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยกติกา หากสมาชิกในสังคมไม่เคารพกฎหมาย ไม่พอใจ ก็ออกมาประท้วงร่ำไป โดยไม่สนใจเสียงข้างมาก ก็ไม่ไหว ในขณะเดียวกัน เสียงข้างมาก ก็จะไม่รับฟังความเห็น หรือปิดกั้นโอกาสในการแสดงความคิดเห็น ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยเช่นกัน

จะได้คนเดิม หรือ คนใหม่ คงต้องรอดูกันไป สมาชิกในสังคมเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือสื่อมวลชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือนักวิชาการกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ....

ตอนนี้ สังคม ก็อาจจะมีความระแวงสงสัยในพรรครัฐบาลเดิมอย่างมากมาย ในด้านจริยธรรมและความโปร่งใสในการบริหารบ้านเมืองที่ผ่านมา การยุบสภา ในตอนนี้ ก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง ตามแนวทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาที่เรายึดถือมานมนาน

บางคนหรือหลายคนมองว่า เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว เพราะปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐสภา แต่เป็นปัญหาของคน ๆ เดียว ก็ว่ากันไป แต่กระบวนการทางรัฐสภาที่เรายึดถือตามแบบอังกฤษ ที่พัฒนาระบบประชาธิปไตยมาเนิ่นนาน กำหนดแนวทางไว้ชัดเจน การยุบสภา จึงเป็นเครื่องวัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ยังให้การสนับสนุนรัฐบาลเดิมหรือไม่

แน่นอนที่สุด หลายคนที่เคยสนับสนุนรัฐบาลชุดเดิม ก็อาจจะเปลี่ยนใจ .... หลังจากมีกระบวนการเปิดเผย ความไม่ชอบมาพากลของการบริหารรัฐกิจ เกิดขึ้นแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ไม่น้อย ยกเว้นเรื่อง คำหยาบคาย พูดจาโกหก โป้ปดมดเท็จในหลาย ๆ เรื่อง (ที่เคยเขียนไปแล้วในบล๊อก) อันเป็นเรื่องที่ไร้จริยธรรมของสื่อมวลชนที่ไม่อาจให้อภัยได้ เช่นกัน

กติกาประชาธิปไตย คือ ยอมรับมติเสียงข้างมาก และเคารพเสียงข้างน้อย ... การเคารพเสียงข้างน้อย ตามแนวทางประชาธิปไตย คือ การอภิปราย การพูด การชี้แจง การตรวจสอบข้อเท็จจริง การแถลงการให้ประชาชนได้ทราบ ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข และดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น วันที่ ๒ เม.ย. ๔๙ นี้แล้วแหละ ที่เราจะได้รับรู้ว่า มติของเสียงข้างมาก คืออะไรครับ ถึงวันนั้น ทุกฝ่าย ก็ต้องยอมรับ ไม่งั้นก็ "พาล" หรือ "ขี้แพ้ชวนตี" ครับ

Anonymous said...

อนาคตประเทศชาติอยู่ที่ไหนหนอ ระบบประชาธิปไตยล่ะ มีใครคิดถึงประชาชนระดับรากหญ้าหรือไม่ หลอกลวงให้คนเหล่านั้นเสพวัตถุเข้าไปจนติดงอมแงม คิดถึงแต่ตนเอง โอ้ละหนอ preminister


jangos212004

LekParinya said...

ขอเห็นแย้ง พี่พล ในความคิดเรื่อง "กติกา"
ในบทความถัดไปนะครับ
"กระดานเดียว สองหมาก"
ด้วยความเคารพ

ขอบคุณ อนารยชน และ แจน กอส.
ที่มาชื่นชม และแสดงความเห็น