Saturday, April 08, 2006

สามเหลี่ยมแห่งความสำเร็จ

บทความนี้
ผมได้จาก เวปสถาปนิกสยาม

บทความนี้
เขียนโดย พี่ที่เคารพคนหนึ่ง
ที่ได้เคยคุยกับผู้ยิ่งใหญ่แห่งชินครอป
เมื่อสองปีก่อน
ในหัวข้อ "หนังสือการบริหาร"
ความตอนหนึ่ง น่าสนใจ
เอามาเล่าให้ฟังดังนี้ครับ

--------------------
"สามเหลี่ยมแห่งความสำเร็จ"

การเริ่มทำการใด
ต้องเริ่มที่ "Best Product" ก่อน
เพราะจะเป็นตัวสำคัญที่สุดในการ start ถือเป็น
ยอดจั่วของสามเหลี่ยม

หลังจากที่ได้ Best Product แล้ว
ก็จะก้าวเข้าไปสู่มุมที่สองของสามเหลี่ยมที่เรียกว่า
"Customer Satisfaction"
คือการนำสินค้านั้นให้เป็นที่พึงพอใจของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ
และจะเกิดอาการเสพติด และขาดไม่ได้

ขั้นตอนสุดท้ายก็คือมุมของสามเหลี่ยมมุมที่ ๓ ก็คือ
"Log In" หมายถึงการกินรวบ
เป็นเจ้าตลาดแต่ผู้เดียว ไร้คู่แข่ง
เป็นการผูกขาดสังคม ผูกขาดการตลาด
หลังจากนั้นอยากจะทำอะไรก็ทำได้
สบายมาก

...ผมนั่งฟังอยู่ด้วยความชื่นชมในความสามารถและวิสัยทัศน์
แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้สงสัย
ก็เลยถามพี่เขาไปว่า
"แล้วต่อจาก Log In นั้นจะเป็นอย่างไรครับ"

พี่เขาก็ตอบออกมาว่า
"มันจะมีอยู่ด้วยกัน ๓ ทางก็คือ..."
๑.กลับเข้าสู่วงจร Best Product อีกครั้ง
หาสินค้าใหม่ ทำให้คนพอใจ แล้วก็ LogIn อีกครั้ง
๒.เกิดการแตกแยกภายใน ทำให้องค์กรแตกแยก
และล่มสลายไปในที่สุด
๓.คู่แข่งหรือสังคมรับไม่ได้ จะเกิดการทำลายจากภายนอก
จะเกิดการปฎิวัติ

ณ วันนี้ พรรคไทยรักไทย
ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า
Best Product ของสังคมการเมืองไทย
เป็นการคิดใหม่ทำใหม่ เสนอการเมืองแบบไม่น้ำเน่า
แล้วก็เข้าสู่นโยบายประชานิยมจนกลายเป็น
Customer Satisfaction
และหลังจากนันก็เข้าสู่สามเหลี่ยมมุมที่ ๓
ก็คือ Log In ไปเรียบร้อยแล้ว
เป็นผู้ครองอำนาจแต่ผู้เดียว
เลือกตั้งเมื่อไรก็ชนะ จะทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง.....
และได้ทำการหมุนกลับไปสู่ Best
Product->Customer Satisfaction->Log In
แล้วหลายรอบ

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประชาคมชาติไทยตอนนี้
กำลังถึงจุดของการเปลี่ยนแปลง
จาก Log In ไป ณ ที่ใดที่หนึ่ง

ใน ๓ ข้อที่พี่ท่านบอกมาคือ
๑. กลับสู่วงจรเดิมเพื่อครองอำนาจ Log In
๒. พรรคแตกแยก พรรคล่มสลาย
๓. ถูกปฎิวัติมวลชน

--------------------

สามทางออกนี้ ออกทางใด
ถูกใจใครหรือไม่ผมไม่ค่อยสนแล้วหล่ะ

สนแต่ว่า

เมื่อออกได้แล้ว
ประเทศไทยจะเหลืออยู่ไหมนะ

No comments: