Tuesday, April 04, 2006

คณิตศาสตร์ กับ ชีวิต (๑) - สมการความเครียด

ผมเป็นคนชอบคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก
เป็นวิชาเดียวที่พอจะเชิดคอได้
ท่ามกลางเกรดวิชาอื่นที่เป็นเลขฐานสอง

สมัยมัธยมต้น
เคยสนุกกับการแก้สมการ หรือเรขาคณิต
อาจารย์ท่านหนึ่งเห็นแล้วก็นึกสนุกด้วย
ถึงขั้นเอาโจทย์ระดับมหาวิทยาลัยมาให้เล่นกัน

ทำเอากลับบ้านดึกไปหลายวัน

หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ผมก็ไม่ได้ใช้ความสนุกสนานเหล่านั้นสักเท่าไหร่
กลับมาสนุกสนานกับการแก้ปัญหา
หาเหตุผลในงานออกแบบ

กว่าจะพบว่ามันสนุกเหมือนวันเก่า ๆ
ก็เกือบจะสาย

ผมเริ่มหยิบหนังสืออ่านเล่นหลาย ๆ แนวมาอ่าน
เริ่มเห็นการนำคณิตศาสตร์
มาอธิบายอะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง
ให้เข้าใจง่าย และเห็นภาพชัดเจนขึ้น
ว่าจะเอามาเล่าเป็นตอน ๆ

อันแรกที่หยิบมาเล่าอีกทีนี้
ผมได้มาจาก หนังสือของ คุณประภาส ชลศรานนท์
ในหนังสือรวมเล่มอันหนึ่งของพี่เขา
(เอ เล่มไหน ก็จำไม่ได้แล้วสิ)

พี่จิก(ขอวิสาสะ เรียกว่าพี่จิก แล้วกันนะครับ)
เขียนในหนังสือว่า ได้สมการนี้มาจากคุณหมอคนหนึ่ง
ดูนี่สิครับ


ผมเห็นสมการนี้แล้ว อี้ง ไปสามนาที
นั่งยิ้มนาน ๆ เหมือนได้พบอะไรบางอย่าง

สมมติ แบบแทนค่าสมการนะครับ
กำหนดให้ มี ความสามารถ = 10

อยากจะเครียดมากสัก = 100
ก็ให้มีความอยากไป = 1000 Ans.

อยากจะเครียดกลาง ๆ แค่ = 1
ก็ให้มีความอยาก = 10 Ans.

หากต้องการเครียดน้อย ๆ
ก็ให้มีความอยากน้อย ๆ เช่น
ลองแทนค่าความอยาก = 1
จะเครียดแค่ = 0.1 Ans.

โตขึ้นมาอีกหน่อย
ได้รู้เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
ช่างมาเสริมกับสมการนี้ได้พอดีกันเลยครับ
เป็นการขยายคำว่า สัญโดษ
"มีน้อยใช้น้อย ใช้ให้คุ้ม ใช้เท่าที่จำเป็น"

ความอยาก แตกความหมายออกมาเป็น
"อยากมี อยากได้ อยากเป็น"
ให้ลดซะ

ประสานแนวคิดตะวันตก
อธิบายให้เข้าสมการคือ
ให้มีการ "พัฒนาความสามารถ" ควบคู่กันไป

คงดีนะครับ
หากแทนค่าสมการด้วย
ความอยาก = 0.01 และจะน้อยลง
ความสามารถ = 1000 และจะมากขึ้น
ความเครียด คงเข้าใกล้ศูนย์เข้าไปทุกที

คงเป็นชีวิตที่มีความสุขนะครับ Ans.

6 comments:

Gelgloog said...

ถามใหม่

แล้วถ้า

ความสามารถ 1 ความอยาก 1

กับ

ความสามารถ100 ความอยาก 100

ก็เครียดเท่ากันสิครับ อิอิ

สมการง่ายๆแบบนี้คงมีข้อจำกัด เป็นเรื่องไม่แปลกครับ แต่ที่ดีก็คือ ทำให้เรามองเห็นภาพความเป็นจริงอะไรบางอย่างนะ แล้วก็จริงๆอย่างที่สมการมันว่าไว้ด้วย

แล้วอย่างผมนี่จะความเครียดเท่าไหร่ดีน้อออ 555

Ponn Virulrak / พร วิรุฬห์รักษ์ said...

เวลา น่าจะเป็นอีกอันที่สำคัญ เพราะในชีวิตนี้ มีคนหลายคนที่ มีความอยากมาก แล้วก็ ความสามารถมาก แต่ไม่มีเวลา ถ้าจะขอเป็น สมการแบบละเอียด อาจจะเป็น

ความเครียด = ความอยาก/ความสามารถxเวลาที่มี

ได้มั้ย?

LekParinya said...

Mr.GELGLOOG
ช่างถามดีครับ
ที่ถามมาน่าจะเป็นคำพิสูจน์น้อย ๆ ได้ว่า
ใครๆ ก็เครียดได้
-รากหญ้า จนจัด อยากมีมือถือ คงเครียด
-รวยอันดับสิบห้าของโลก อยากครองประเทศ ก็คงเครียด
--------------
พี่พร
คิดลึกดีครับ
ผมเลยต้องเอาไปนั่งคิดต่อ
"เวลา"น่าจะอยู่บรรทัดเดียวกับความสามารถนะครับ
ความสามารถอันนี้
อาจใช้คำว่า "ทรัพยากร"
น่าจะได้ความหมาย คล้ายกัน

ทรัพยากร เช่น
กำลังกาย กำลังเงิน หน้าตา เวลา ปัญญา ฯลฯ
แต่ละคน คงมีความสำคัญในทรัพยากรเหล่านี้แตกต่างกันไปนะครับ
อาจเป็นตัวบวกคูณ หรือยกกำลัง
เช่น ความอยาก คือ อยากเป็นแฟนกับพินทองธา
ทรัพยากรคงต้องมีประมาณ
"อำนาจวาสนา ยกกำลังด้วยเงินทุน บวกหน้าตา"
(จะเห็นว่าไม่มีปัญญารวมในนั้น)

คุณมิ้ม
ขอบคุณที่ทักทาย
"ไอเดียว"อันเดียว ช่วงนี้ตัน ๆ แล้ว
งานยุ่งจริง ๆ
แล้วจะแวะไปเยี่ยม

Anonymous said...
This comment has been removed by a blog administrator.
LekParinya said...

หูยนี่ถ้าโดนด่าว่า "ทักษิณ"
จะโกรธมากเลยนะครับ

ผมมีของผม คุณมีของคุณ
ผมมีศีลธรรมเพียงพอ
ส่วนของผม ผมมีความสุขมากพอแล้วครับ
ไม่หาเรื่องใส่ตัวแน่ ๆ ครับ

รักกัน คบกัน
มีปัญหา ก็คุยกันเองนะครับ
สำคัญที่ต้องรับฟังด้วย

รักระหองระแหง
ผมก็เคยมีปัญหานี้มา
ผมก็แนะนำไปตามที่พอมีประสบการณ์
ไม่อยากให้คนเลิกกัน

"เสือก" กับ "หวังดี"
มันใกล้ ๆ กันครับ

ผมยืนยันว่า ผม"หวังดี"
ผมไม่เคยคิดจะแย่งอะไรใครแน่ ๆ
ย้ำว่า "ของผมมีความสุข พอแล้ว"

ถ้าการหวังดีของผม
ทำให้คุณจะเข้าใจผิดเป็น"เสือก"
ผมขออภัย จะไม่หวังดีแล้วครับ

Anonymous said...

สำหรับผม มองว่า ถ้าความอยากเป็น เป้าหมาย Goal ถ้า Goal สูง ผมก็จะไปเพิ่ม ความสามารถตัวเอง จะได้ไม่เครียด ฮ่าๆๆๆๆ

ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าเครียดเพราะแฟนจะทิ้งก็เพิ่มความดีตัวเอง จะได้ไม่เครียด ฮ่าๆๆๆ

The เหลา