Monday, April 09, 2007

จะยิ้มทำไมทั้งวัน(วะ)?

สมัยผมทำงานที่นิวยอร์ค เมื่อปีก่อน
นิวยอร์ค ก็ยังคงเป็นมหานครของโลกเหมือนอย่างที่มันเคยเป็นเสมอมา

ในที่ทำงานเก่าของผม นอกเหนือจากอเมริกันแล้ว
เพื่อนร่วมงาน จริงๆ แล้วมีประมาณยี่สิบคน
แต่กลับมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์อย่างคาดไม่ถึง เมื่อมานั่งคิด

โปแลนด์ เชค เกาหลีใต้ ญึ่ปุ่น จาไมก้า ไนจีเรีย แทนซาเนีัย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ลาว เอกัวดอร์ สาธารณะรัฐโดมินิกัน และ ไทย


ผมสังเกตว่า เพื่อนชาวจาไมก้าของผม มันยิ้มอยู่ได้ทั้งวัน
ฟันขาวๆ ของมัน ตัดกับสีผิวน้ำตาลดำ และหัวเหน่งได้อย่างสะดุดตามาก

วันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสยืนฉี่ข้างๆ มัน
หันไปมองหน้ามัน มันก็ยิ้มให้

ผมเลยถามมันตรงๆ แบบกวนๆ ยิ้มๆ ว่า
"นี่เอ็งเคยหยุดยิ้มไหมวะ?"

มันยิ้มกว้างกว่าเดิม
เขย่าตัว เสร็จภาระกิจ
แล้วตอบคำถามกวนๆ ของผมว่า

"The day is too short to be upset, man"

เสียงเพื่อน แทนซาเนีย ในส้วมที่ปิดอยู่
เฮดังลั่น แสดงความชอบใจในคำตอบ

ส่วนผม

ผมยังยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึงคำตอบมัน

4 comments:

Anonymous said...

"The day is too short to be upset, man"

นั่นสิ เครียดมากไปก็เยี่ยวเหลืองเปล่าๆ

แต่ก็นะ ไม่ได้เกิดมาเงินถังนิหว่า

ปล. อยากอ่านนิตยสารนวลนาง นี่เราคงแก่แล้วสินะ?

Anonymous said...

กลับมาอีกครั้งได้น่าสนใจมาก

มีป้าคนนึงบอกว่า
life is too short แต่วันนี้ของฉันชั่งนานเหลือเกิน

Anonymous said...

ไอ้ที่ต้องการให้ยาว มันดันสั้น
ที่ต้องให้สั้น ... มันเจือกยาว

Life is very short.
And it's no time ....

Anonymous said...

"The day is too short to be upset, man."


hit my heart!!! ^_^