Friday, November 13, 2009

ก่อน 2012

ช่วงนี้ใครเปิดดูช่องสารคดีหลัก History / Nat Geo / Discovery
จะมีแต่เนื้อหาที่คล้ายๆ กันคือ วันสิ้นโลก

History เล่นเรื่อง นอสตราดามุส และคำทำนาย

Nat Geo เล่นเรื่อง Solar Flare

Discovery เล่นเรื่อง Super Volcano at Yellow Stone

ก่อนปี 1999 ใครจำได้ ก็จะประโคมกันจริง เรื่องพวกนี้

เหมือนจะขีดเส้นวันสิ้นโลก ในปี 1999 เพราะนอสตราดามุสเขียนตัวเลขนี้ไว้ในคำทำนายอันหนึ่ง

ผ่านมาหลายปี โลกมันก็ยังอยู่ ดันมีคนไปตีความว่า 1999 กลับเลขกลายเป็น 9111
คือ 9/11/2001 อ้าวเวร นี่มันอาจารย์ใบ้หวยแถวปากซอยบ้านผมนี่หว่า

บอกเลขอะไรมา เขียนอะไรมาก็ถูกหมดดิพี่

เชื่อว่า 2012 ผ่านไป พวกนี้ชอบขายความกลัว ก็จะขีดอีกเส้นนึง นับไปอีก 13 ปี เป็น 2025

--------------------

ส่วนในโรงหนัง ก็มีหนังอุบัติภัยสิ้นโลกมาอีกอันแล้วครับ

ก่อนไปดู มึข้อสังเกตความคล้ายกันของหนังจำพวกนี้ อยู่ดังนี้คือ

1.รัฐบาลอเมริกา เชื่อไม่ได้ และไม่เก่งอย่างที่คิด

2.คนที่เชื่อได้กลับเป็นพวก Nerd หรืองมงายกับคำทำนายไร้สาระ

3.คนที่เมียหย่า ทะเลาะกับลูก มักจะมีโอกาสคืนดีกันตอนสิ้นโลก

4.เมื่อรู้ว่าโลกจะสิ้น ทุกคนกลายเป็นคนเลว แต่วินาทีก่อนสิ้นโลก ทุกคนจะกลายเป็นคนดี

5.ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถ้าไม่ขี่เครื่องบินไปสู้เอเลี่ยนได้ มักจะตายเสมอ

6.อุบัติภัยมักจะทำลายเมือง Icon สำคัญของโลก ดังนี้คือ นิวยอร์ค วอชิงตัน ปารีส ฮ่องกง ส่วนตำบลหันห้วยทราย จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทยนั้น ยังปลูกข้าวกินได้ตามปกติ

7.คนเอเชียในหนังประเภทนี้ มีอัตราการรอดตาย แค่ 1 เปอร์เซนต์ ซึ่งมักจะเป็นคนญี่ปุ่น (ที่ใช้นักแสดงเกาหลี หรือจีนมาเล่น แล้วพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เอาอ่าว)

8.อัตราการรอดตาย อีกร้อยละ 99 เป็นคนอเมริกัน ประกอบด้วยสามจำพวก คือ พวกมีปัญหาในชีวิตส่วนตัว นักวิทยาศาสตร์ และสาวนมใหญ่